ข้อควรทราบ เกี่ยวกับการจัดทำฉลากสินค้า "ภายใต้แบรนด์ของลูกค้า"

Last updated: 3 มิ.ย. 2568  |  61 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ข้อควรทราบ เกี่ยวกับการจัดทำฉลากสินค้า "ภายใต้แบรนด์ของลูกค้า"

เรื่องที่ควรรู้ก่อนเป็นเจ้าของแบรนด์ 
การจัดทำฉลากสินค้า ที่ตรงตามประกาศของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)

หากลูกค้าต้องการทำแบรนด์เป็นของตัวเองสิ่งสำคัญที่สุดอีกอย่างที่ไม่ควรพลาด นั่นก็คือ “เนื้อหาหรือข้อมูลฉลากบนผลิตภัณฑ์”

 ต้องมีครบถ้วน ตามที่กำหนดเป็นข้อความฉลากที่ต้องแสดง ฉลากของเครื่องสำอางที่ขายในประเทศต้องระบุดังนี้

1. ชื่อเครื่องสำอางและชื่อทางการค้า Product Name : เป็นชื่อ ที่ตรงกับการจดแจ้งผลิตภัณฑ์ในหมวดเครื่องสำอาง หรือ ขึ้นทะเบียนยาแผนไทยตามตำรับ
(มีขนาดใหญ่กว่าข้อความอื่น)
2.ประเภทหรือชนิดของเครื่องสำอาง Product type : มีการบ่งบอกถึงประเภท สินค้าอย่างชัดเจน เพื่อสื่อถึงลักษณะของเครื่องสำอาง
3. วิธีใช้ How to use : วิธีใช้อย่างครบถ้วน เพื่อให้ผู้ใช้ทราบว่า ผลิตภัณฑ์มีวิธีใช้หรือขั้นตอนอย่างไร อีกทั้งสามารถใช้กับบริเวณใดของร่างกายได้บ้าง เนื่องจากผลิตภัณฑ์บางประเภทสามารถใช้ได้เฉพาะที่เท่านั้น และอาจเกิดการระคายเคืองเมื่อใช้กับบริเวณที่มีผิวบอบบาง เช่น บริเวณรอบดวงตา, บริเวณที่มีผิวบอบบาง หรือ มีแผล
4. ส่วนประกอบ Ingredients : ส่วนประกอบสำคัญ ที่มีการใช้ในกระบวนการผลิต ทั้งนี้ ตามคำแนะนำมีความจำเป็นจะต้องใส่หรือระบุให้ครบตามที่ได้ใส่ในขั้นตอนการผลิตและจดแจ้งผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง เพื่อให้ผู้ใช้ตรวจสอบส่วนประกอบที่อาจจะแพ้ หรือระคายเคือง ประกอบการตัดสินใจ
5. คำเตือน / คำแนะนำ (ถ้ามี) Suggestion : กรณีเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีการใช้งานเฉพาะที่ หรือ ไม่เป็นที่แพร่หลาย ควรจะมีขั้นตอนในการใช้อย่างครบถ้วน เพื่อให้ผู้ใช้สามารถใช้ในปริมาณที่เหมาะสม และปลอดภัย
6. ที่ตั้งของผู้ผลิต Manufactured by : การจดแจ้งผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง เป็นหน้าที่และความรับผิดชอบของผู้ผลิต ซึ่งหากมีการผลิตสินค้ากับบริษัทฯ นั้นๆ จะต้องระบุผู้ผลิตอย่างชัดเจน เพื่อใช้ในการตรวจสอบความถูกต้องของสถานที่ผลิต 
7. เลขที่แสดงครั้งที่ผลิต Lot No. : ลอตสินค้าที่ผลิต เป็นการบ่งบอกหรืออ้างอิงลำดับ หรือ ลอตการผลิตนั้นๆ ในกระบวนการผลิตต่อครั้ง ซึ่งเป็นหน้าที่ของผู้ผลิตที่จะพิจารณาและแจ้งให้ลูกค้าทราบเพื่อใช้ในการสื่อสารได้อย่างตรงไป ตรงมาทั้งสองฝ่าย
8. เดือนปีที่ผลิต MFG Date : วัน/ เดือน/ ปี ที่ผลิต เป็นการบ่งบอกวันที่มีการผลิตสินค้าในลอตนั้นๆ
9. เดือนปีที่หมดอายุ EXP Date : วัน/ เดือน/ ปี ที่หมดอายุ เป็นการบ่งบอกหรือคาดการณ์อายุ และคุณภาพสินค้าเครื่องสำอาง 
10. ปริมาณสุทธิ Net Weight : แสดงปริมาณบรรจุจริง ที่ผลิตภัณฑ์บรรจุในบรรจุภัณฑ์นั้นๆ ซึ่งเป็นการแสดงถึงน้ำหนักที่บรรจุ (มิใช่ปริมาตรของขวดบรรจุ)

11. เลขที่ใบรับจดแจ้ง FDA No. : แสดงเลขที่ใบรับจดแจ้ง เพื่อเป็นการแสดงว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าว ได้ผ่านการจดแจ้งผลิตขึ้นทะเบียน จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแล้ว ซึ่งจะประกอบไปด้วย 13 หลัก
12. ข้อความอันจำเป็นอื่นๆ (ถ้ามี) เช่น ผู้จัดจำหน่าย Distributor : การแสดงถึงความรับผิดชอบของเจ้าของแบรนด์ ในกรณ๊มีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในท้องตลาด และมีการกระจายสินค้าในพื้นที่ต่างๆ หรือช่องทางต่างๆ จำเป็นจะต้องมีระบุ ผู้จัดจำหน่าย หรือ ผู้ว่าจ้างผลิต เพื่อให้ผู้บริโภค สามารถตรวจสอบและติดต่อกับผู้ขายได้ หากมีปัญหาเรื่องของการจัดส่ง หรือ ปัญหาเกี่ยวกับการใช้ผลิตภัณฑ์ ทั้งนี้ ผู้ว่าจ้างผลิต หรือ  เจ้าของแบรนด์ จะต้องมีการศึกษาข้อกำหนดเกี่ยวกับการโฆษณาและการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์นั้นๆ ก่อนการโฆษณาและจัดจำหน่ายด้วย

คำแนะนำ : ควรจัดทำฉลากตามหมวด หรือ สรรพคุณที่ได้ทำการจดแจ้งผลิตภัณฑ์ โดยคำนึงถึงการโฆษณาที่ไม่โอ้อวดสรรพคุณเกินจริง หรือ เกินขอบเขตที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) แนะนำ

หมายเหตุ:
โดยฉลากของเครื่องสำอางที่ขายในประเทศต้องใช้ข้อความภาษาไทย และมีขนาดที่สามารถ อ่านได้ชัดเจน อาจมีข้อความอื่นหรือมีภาษาต่างประเทศด้วยก็ได้
ยกเว้นชื่อของสารที่ใช้เป็นส่วนผสม ในการผลิตเครื่องสำอาง อาจใช้ภาษาไทย หรือเขียนภาษาไทยทับศัพท์ภาษาอังกฤษ หรือใช้ภาษาอังกฤษ อย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้
แต่ในกรณีของเครื่องสำอางที่ขายในประเทศที่มีภาชนะบรรจุขนาดเล็ก และมีพื้นที่ในการแสดงฉลากน้อยกว่า 20 ตารางเซนติเมตร ให้แสดงในใบแทรกหรือเอกสารหรือคู่มือที่ใช้ประกอบเครื่องสำอาง
*โปรดศึกษาประกาศคณะกรรมการเครื่องสำอาง เรื่องฉลากเครื่องสำอาง พ.ศ. 2562 เพิ่มเติม
*โปรดศึกษาประกาศคณะกรรมการเครื่องสำอาง ว่าด้วยเรื่องคำเตือน เพิ่มเติม

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้